เช็คเบอร์ทรูมูฟ เอช (TrueMove H) ง่ายๆ ด้วยตนเอง – วิธีตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ทรูครบทุกวิธี
ลืมเบอร์มือถือของตัวเองใช่ไหม? คุณไม่ได้อยู่คนเดียว! ผู้ใช้มือถือหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเปิดซิมใหม่ หรือแม้แต่ใช้เบอร์เดิมมานาน ก็อาจจำหมายเลขตัวเองไม่ได้
“ใช้มา 2 ปี จำไม่เคยได้ รู้แต่ลงท้าย 66” — ความเห็นจากผู้ใช้ Pantip รายหนึ่ง
แต่อย่าเพิ่งกังวล เพราะ ทรูมูฟ เอช (TrueMove H) มีหลายวิธีให้คุณ เช็คเบอร์ทรู หรือ ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ทรูของตัวเอง ได้อย่างง่ายดาย ทั้งผ่านรหัส USSD ง่ายๆ บนมือถือ, ผ่านแอป True iService, ผ่านเว็บไซต์ และวิธีอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เรายังจะแนะนำวิธี ค้นหาเบอร์ทรู หรือเช็คว่าเบอร์โทรศัพท์ที่สงสัยเป็นเครือข่ายอะไร (ทรู, AIS หรือ dtac) ได้ด้วยตนเอง. มาดูกันเลยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง
วิธีเช็คเบอร์ทรูมูฟ เอชของตัวเอง (ทุกระบบ)
สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช ทั้งแบบเติมเงินและรายเดือน การเช็คหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่สามารถทำได้เองภายในไม่กี่วินาที และไม่มีค่าใช้จ่าย เราขอแนะนำวิธีหลักๆ ดังนี้:
1. กดรหัส USSD *933# เพื่อดูเบอร์ (ข้อความภาษาไทย)
วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการเช็คเบอร์ทรูของตนเองคือการกดรหัส *933#
แล้วกดโทรออกบนมือถือของคุณ ทันทีที่กด ระบบจะแสดงหมายเลขโทรศัพท์ของคุณบนหน้าจอ (เป็นข้อความ USSD) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเลย. รหัสนี้ใช้ได้กับทรูมูฟ เอชทุกประเภทซิม ไม่ว่าจะเป็นแบบเติมเงินหรือรายเดือน (หมายเลขจะขึ้นต้นด้วย 06x, 08x หรือ 09x ตามหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ) ทั้งนี้ บริการนี้ฟรี 100% คุณจึงวางใจได้ว่าจะไม่เสียเงินหรือค่าโทรใดๆ
ตัวอย่างการกดรหัส *933# บนมือถือ TrueMove H เพื่อเช็คเบอร์ของตัวเอง (ไม่มีค่าบริการ)
เคล็ดลับ: หากต้องการข้อความตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ สามารถกด *833#
แล้วโทรออกแทนได้ ซึ่งมีผลลัพธ์เหมือนกันคือแสดงเบอร์โทรของคุณ แต่ข้อความจะเป็นภาษาอังกฤษ (เหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่ใช้ซิมทรู) ไม่ว่าจะใช้ *933# (ไทย) หรือ *833# (อังกฤษ) ผลลัพธ์ที่ได้คือทราบเบอร์มือถือทรูมูฟ เอช ของคุณทันทีผ่านข้อความบนหน้าจอ
“สามารถกด *933# โทรออก ฟรีครับ” — ข้อแนะนำจากผู้ใช้ Pantip
จากข้อความข้างต้นในกระทู้ Pantip จะเห็นได้ว่าการกด *933# เป็นวิธีมาตรฐานที่ทางทรูเองก็แนะนำให้ลูกค้าใช้ในการตรวจสอบเบอร์ตนเอง ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยและรวดเร็ว
2. โทร 9303 (ระบบตอบรับอัตโนมัติ) เพื่อฟังหมายเลข
นอกจากการกด *933# แล้ว ทรูมูฟ เอชยังมีบริการ ระบบตอบรับอัตโนมัติ (IVR) ที่จะแจ้งหมายเลขของคุณผ่านเสียงตามสาย เพียงกดโทรออกที่เบอร์ 9303
จากซิมทรูมูฟ เอชของคุณ ระบบอัตโนมัติจะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้งานอยู่ให้ทราบทางเสียงทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกัน. วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อาจไม่สะดวกมองหน้าจอ หรือผู้สูงอายุที่ถนัดการฟังมากกว่าการอ่านข้อความ
เมื่อโทรติดที่ 9303 คุณอาจได้ยินเสียงระบบกล่าวหมายเลขของคุณทีละหลัก หรือในบางกรณีอาจส่งหมายเลขผ่าน SMS กลับมาที่เครื่อง ทั้งสองกรณีให้ผลลัพธ์คือคุณจะทราบเบอร์มือถือของตัวเองอย่างรวดเร็วและถูกต้อง (หากโทร 9303 แล้วยังไม่ได้ผล สามารถลองวิธี *933# ที่กล่าวไปข้างต้นเป็นทางเลือกเพิ่มเติม)
3. ใช้แอปพลิเคชัน True iService (myTrue)
อีกวิธีหนึ่งที่สะดวก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ติดตั้งแอปของทรูไว้แล้ว ก็คือการใช้แอป True iService (บางครั้งเรียกว่าแอป myTrue) ซึ่งเป็นแอปบริการลูกค้าครบวงจรของทรู ในการตรวจสอบเบอร์โทรของคุณ:
- เปิดแอป True iService ในมือถือ หากยังไม่มีสามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play หรือ App Store
- ล็อกอินเข้าสู่ระบบ ด้วยบัญชีทรูไอดี (อาจเป็นอีเมลหรือหมายเลขบัตรประชาชนที่ผูกกับบริการทรู) *หากยังไม่เคยลงทะเบียน ให้ลงทะเบียนก่อน*
- เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ไปที่เมนู “บิล & การใช้งาน” (Bill & Payment) หรือหน้าแสดงรายละเอียดเบอร์ของคุณ
- ดูหมายเลขโทรศัพท์: บนหน้าจอจะแสดงหมายเลขทรูมูฟ เอชที่คุณใช้งานอยู่ พร้อมกับข้อมูลอื่นๆ เช่น ยอดค้างชำระหรือยอดเงินคงเหลือ
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตและมีสมาร์ทโฟน เนื่องจากนอกจากจะบอกเบอร์โทรแล้ว แอป True iService ยังให้คุณตรวจสอบข้อมูลการใช้งานอื่นๆ ได้ด้วย เช่น ยอดเงิน, โปรโมชันที่ใช้อยู่ เป็นต้น ทั้งนี้ การใช้แอปเพียงเพื่อดูหมายเลขอาจจะช้ากว่าการกด *933# อยู่บ้าง (เพราะต้องล็อกอิน) แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประโยชน์มาก โดยเฉพาะหากคุณล็อกอินค้างไว้ ก็สามารถเปิดแอปขึ้นมาเช็คได้ทันที
หมายเหตุ: หากคุณมีแอป TrueID ซึ่งเป็นแอปความบันเทิงของทรู บัญชีทรูไอดีที่ล็อกอินไว้อาจช่วยให้เข้าถึงบริการ True iService ได้ง่ายขึ้น (บางเวอร์ชันของแอป TrueID รวมฟังก์ชันการจัดการเบอร์มือถือด้วย) แต่ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำให้ใช้แอป True iService โดยตรงจะดีที่สุด
4. เช็คเบอร์ทรูผ่านเว็บไซต์ (True iService Web)
กรณีที่คุณไม่มีแอปหรือใช้คอมพิวเตอร์อยู่ ก็สามารถตรวจสอบเบอร์ผ่านทางเว็บไซต์ของทรูได้เช่นกัน โดยไปที่หน้า True iService บนเว็บ จากนั้นล็อกอินด้วยบัญชีทรูของคุณเหมือนในแอป เมื่อเข้าระบบแล้ว หน้าโปรไฟล์หรือหน้าบัญชีจะแสดงข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณใช้อยู่เช่นเดียวกับในแอป วิธีนี้จะคล้ายกับการใช้แอป คือจำเป็นต้องมีการลงทะเบียนบัญชีล่วงหน้า หากยังไม่เคยลงทะเบียน คุณอาจต้องสมัครบัญชีใหม่โดยใช้เลขบัตรประชาชนหรืออีเมลที่ผูกกับเบอร์ทรูของคุณ (ซึ่งต้องทราบเบอร์อยู่ดี) ดังนั้นวิธีเว็บอาจเหมาะสำหรับกรณีที่คุณจำเบอร์ได้คร่าวๆ หรือมีข้อมูลลงทะเบียนอยู่แล้ว
ในกรณีที่คุณลืมเบอร์แบบสิ้นเชิงและยังไม่เคยสมัครบัญชี True iService มาก่อน การใช้เว็บไซต์หรือแอปอาจยุ่งยาก เพราะระบบต้องการยืนยันตัวตนด้วยหมายเลขโทรศัพท์ (ผ่าน OTP) หรือข้อมูลส่วนตัว อย่างไรก็ดี หากคุณมี เลขที่บัตรประชาชน ที่ลงทะเบียนซิมไว้ ก็สามารถใช้ในการลงทะเบียนบัญชีใหม่บนเว็บไซต์ได้ ซึ่งอาจช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเบอร์โทรของคุณได้โดยไม่ต้องทราบหมายเลขล่วงหน้า (ระบบจะแสดงเบอร์ทั้งหมดที่ลงทะเบียนภายใต้บัตรประชาชนของคุณ)
5. ติดต่อ Call Center หรือศูนย์บริการ True
หากทุกวิธีข้างต้นไม่สะดวกสำหรับคุณ หรือกรณีทำโทรศัพท์หาย/ซิมหายจนไม่สามารถกดเช็คด้วยตัวเองได้ แนะนำให้ติดต่อ ทรูคอลเซ็นเตอร์ หรือศูนย์บริการทรูใกล้บ้าน:
- โทรหาเจ้าหน้าที่ทรู (Call Center 1242) จากโทรศัพท์เครื่องอื่น และแจ้งว่าคุณต้องการทราบหมายเลขโทรศัพท์ของซิมทรู (อาจต้องให้ข้อมูลยืนยันตัวตน เช่น เลขบัตรประชาชน, ชื่อ-นามสกุลผู้จดทะเบียน) เมื่อยืนยันแล้ว เจ้าหน้าที่จะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ให้คุณทราบ
- ไปที่ True Shop พร้อมนำบัตรประชาชนตัวจริงของผู้จดทะเบียนซิม ไปขอตรวจสอบหมายเลขที่ใช้งานอยู่ เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาหมายเลขของคุณในระบบจากเลขบัตรประชาชนได้ (กรณีที่ซิมลงทะเบียนถูกต้อง)
ทั้งสองช่องทางนี้เป็นวิธีที่ใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉินที่คุณไม่สามารถใช้วิธีเช็คด้วยตนเองได้ เช่น โทรศัพท์หายแล้วจำเบอร์ไม่ได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คอลเซ็นเตอร์ทรู 1242 สามารถใช้บริการ “บริการทางลัด” ได้ด้วยตนเองเช่นกัน โดยการกด *1242 แล้วโทรออกจากมือถือทรูของคุณ ซึ่งระบบนี้จะมีเมนูอัตโนมัติให้กดเลือกทำรายการต่างๆ ด้วยตนเองตลอด 24 ชม. และ ไม่มีค่าใช้จ่าย (หนึ่งในเมนูนั้นอาจมีการแจ้งข้อมูลเบอร์โทรของคุณ)
Tip: เพื่อความสะดวกในอนาคต แนะนำให้บันทึกเบอร์มือถือของตัวเองไว้ในสมุดโทรศัพท์ของเครื่องหรือจดไว้ในที่ที่จำง่าย บางคนอาจส่ง SMS หรือโทรไปหาเบอร์เพื่อน/ครอบครัว แล้วให้เขาบันทึกเบอร์เราไว้ จากนั้นเวลาลืมก็สามารถถามจากคนใกล้ตัวได้
6. วิธีอื่นๆ (ดูจากซิมการ์ดหรือการตั้งค่าโทรศัพท์)
นอกจากวิธีหลักที่กล่าวมา ยังมีวิธีเสริมอื่นๆ ที่อาจช่วยคุณได้ในบางกรณี:
- ดูจากซิมการ์ดหรือแพ็กเกจซองซิม: หากคุณยังมีซองหรือการ์ดพลาสติกที่มาพร้อมซิมตอนซื้อใหม่ บนนั้นมักจะพิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ไว้ สามารถหยิบมาดูได้ (วิธีนี้ตรงไปตรงมาและไม่ต้องเปิดเครื่อง)
- ดูในตั้งค่าโทรศัพท์: สมาร์ทโฟนบางรุ่นจะแสดงเบอร์โทรของซิมที่ใส่อยู่ในเครื่อง โดยเข้าไปที่ “การตั้งค่า” > “เกี่ยวกับโทรศัพท์” > “สถานะซิม” แล้วมองหาหัวข้อ “หมายเลขโทรศัพท์ของฉัน” (My Phone Number). อย่างไรก็ดี บางครั้งเครื่องจะแสดงเป็น “ไม่ทราบ” หรือว่างเปล่า หากซิมไม่ได้ตั้งค่าหมายเลขไว้ล่วงหน้า ดังนั้นวิธีนี้อาจไม่ได้ผลเสมอไป
- โทรออกหรือส่งข้อความไปยังเครื่องอื่น: ถ้าอยู่ใกล้โทรศัพท์เครื่องอื่น (เช่น ของเพื่อนหรือโทรศัพท์บ้าน) การโทรหรือส่ง SMS ออกไปจะทำให้ปลายทางเห็นหมายเลขของคุณบนหน้าจอ (วิธีนี้ต้องเสียค่าโทร/SMS ตามโปรของคุณเล็กน้อย แต่ได้ผลแน่นอนในการรู้เบอร์ตัวเอง)
หลังจากลองวิธีต่างๆ ข้างต้นแล้ว คุณน่าจะสามารถค้นหาและยืนยันหมายเลขทรูมูฟ เอชของตัวเองได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สำหรับการใช้งานทั่วไป การกด *933# ถือเป็นวิธีที่ทั้งง่ายและเร็วที่สุด แต่ก็มีทางเลือกอื่นให้ใช้ตามความสะดวกของแต่ละคน
วิธีการ | รายละเอียด |
---|---|
กดรหัส *933# | กดบนมือถือของคุณ แล้วโทรออก – ระบบจะแสดงเบอร์โทรบนหน้าจอทันที (ข้อความภาษาไทย) ฟรี |
กดรหัส *833# | เหมือนกับ *933# แต่ข้อความตอบกลับเป็น ภาษาอังกฤษ เหมาะสำหรับผู้ใช้ต่างชาติ ฟรี |
โทร 9303 | โทรออกจากมือถือทรูของคุณ – ระบบเสียงอัตโนมัติจะอ่านหมายเลขโทรศัพท์ของคุณให้ฟังจนจบ ฟรี |
แอป True iService | ล็อกอินเข้าแอปเพื่อดูข้อมูลเบอร์โทรที่ใช้งาน (แสดงเบอร์ของคุณที่หน้าบัญชี) ฟรี |
เว็บไซต์ True iService | เข้าใช้งานผ่านเว็บเบราเซอร์ ล็อกอินด้วยบัญชีทรู เพื่อตรวจสอบหมายเลขที่ใช้งาน ฟรี |
Call Center / True Shop | ติดต่อ 1242 หรือไปศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบหมายเลข (ยืนยันตัวตนก่อน) ไม่มีค่าบริการ |
วิธีเช็คเครือข่ายเบอร์โทรศัพท์ (เบอร์นี้ค่ายอะไร?)
บางครั้งคุณอาจมีหมายเลขโทรศัพท์แปลกๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นของเครือข่ายไหน (เช่น มีสายโทรเข้าจากเบอร์ไม่คุ้น หรือกำลังจะโทรหาเบอร์เพื่อนแต่ไม่แน่ใจว่าใช้เครือข่ายเดียวกันหรือไม่) ทรูมูฟ เอชมีวิธีให้คุณ เช็คเครือข่ายจากหมายเลขโทรศัพท์ ปลายทางได้ง่ายๆ ผ่าน USSD เช่นกัน:
- กด
*933*
หมายเลขโทรศัพท์ปลายทาง#
แล้วโทรออก จากนั้นระบบจะแจ้งกลับมาทันทีว่าเบอร์ที่คุณเช็คเป็นเครือข่ายทรูหรือไม่ (ถ้าใช่จะแจ้งว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน คือทรู แต่ถ้าไม่ใช่จะแจ้งว่าเป็นเบอร์นอกเครือข่ายทรู)
ฟังก์ชันนี้สามารถใช้ได้ฟรีเช่นกัน และเป็นประโยชน์มากหากคุณอยากรู้ว่าเบอร์ที่กำลังจะโทรหาหรือเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นอยู่เครือข่ายใด จะได้ตัดสินใจได้ถูกต้อง เช่น ถ้าเป็นเบอร์นอกเครือข่ายและคุณมีโปรโทรฟรีเฉพาะในเครือข่าย ก็อาจเลือกวิธีติดต่ออื่นหรือระวังเรื่องค่าโทร เป็นต้น
เช็คเครือข่ายเบอร์อื่นทุกค่าย: ไม่ใช่แค่ทรูที่มีบริการนี้ ทุกเครือข่ายหลักในไทย (AIS, DTAC, NT) ต่างก็มีรหัส USSD ให้กดเช็คว่าเบอร์ปลายทางอยู่ค่ายไหนได้เช่นกัน ดังตารางด้านล่าง
เครือข่ายที่ต้องการเช็ค | รหัสที่ต้องกด (ตามด้วยเบอร์เป้าหมาย) |
---|---|
TrueMove H (ทรู) | *933*เบอร์โทรศัพท์# แล้วโทรออก |
AIS (เอไอเอส) | *727*เบอร์โทรศัพท์# แล้วโทรออก |
DTAC (ดีแทค) | *102*เบอร์โทรศัพท์# แล้วโทรออก |
NT (โทรคมนาคมแห่งชาติ: my by CAT เดิม, TOT เดิม) | *153*เบอร์โทรศัพท์# แล้วโทรออก |
เมื่อกดรหัสตามเครือข่ายและหมายเลขเป้าหมายแล้ว ให้รอไม่กี่วินาที ระบบของค่ายที่คุณใช้จะส่งข้อความแจ้งกลับมาว่าเบอร์ปลายทางนั้นอยู่เครือข่ายอะไร ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ซิมทรูแล้วต้องการตรวจสอบว่า 099-XXXXXXX เป็นเบอร์ทรูหรือไม่ ก็ให้กด *933*099XXXXXXX# โทรออก จากนั้นระบบจะแจ้งผลทันที (ถ้าเบอร์นี้เป็นทรู จะขึ้นข้อความว่า “เป็นเบอร์ทรูมูฟ” แต่ถ้าไม่ใช่ จะแจ้งว่า “ไม่เป็นเบอร์ทรูมูฟ”)
หมายเหตุ: บริการเช็คเครือข่ายนี้สามารถใช้ได้เฉพาะภายในเครือข่ายตนเอง หมายความว่า คุณต้องกดรหัสของค่ายมือถือที่คุณใช้งานอยู่ เช่น ถ้าคุณใช้เบอร์ทรู ก็ต้องกดรหัส *933*…# เพื่อตรวจสอบเท่านั้น ไม่สามารถกดรหัสของ AIS หรือ Dtac จากซิมทรูได้ (และในทางกลับกัน) ดังนั้นหากคุณมีหลายซิม ก็ต้องใช้ซิมให้ตรงกับค่ายที่ต้องการเช็คเบอร์ปลายทาง
บริการเหล่านี้มีประโยชน์ในการตรวจสอบเครือข่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนหลอกลวงจากมิจฉาชีพที่ใช้เบอร์ต่างค่ายโทรมาหลอก หรือเพื่อวางแผนค่าโทรให้ประหยัดขึ้น นอกจากนี้ หากสนใจวิธีเช็คเบอร์หรือบริการอื่นๆ ของค่ายมือถืออื่น สามารถดูบทความที่เกี่ยวข้องได้ เช่น วิธีเช็คเบอร์ตัวเอง AIS หรือ วิธีเช็คเบอร์ตัวเอง DTAC ซึ่งมีขั้นตอนคล้ายกัน (แต่รหัสจะแตกต่างกัน)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเช็คเบอร์ทรู (FAQ)
Q: ลืมเบอร์ทรูมูฟ เอช ของตัวเอง ควรทำอย่างไรเป็นอย่างแรก?
A: ขั้นแรกแนะนำให้ใช้วิธีง่ายที่สุดคือ กด *933# โทรออก จากมือถือเครื่องที่ใส่ซิมทรูของคุณ วิธีนี้ใช้เวลาสั้นมาก (ไม่ถึง 5 วินาที) และระบบจะแสดงหมายเลขของคุณบนหน้าจอทันที ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย. ถ้าวิธีนี้ไม่สะดวก (เช่น ไม่มีเครื่องให้นำซิมใส่) อาจลองโทร 9303 เพื่อฟังหมายเลขจากระบบอัตโนมัติ หรือใช้แอป True iService ตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น
Q: รหัส *933# กับ *833# ต่างกันอย่างไร?
A: ทั้ง *933#
และ *833#
เป็นรหัสสำหรับเช็คเบอร์ทรูมูฟ เอช ของตัวเองเหมือนกัน และทั้งสองรหัสใช้งานฟรีไม่คิดค่าบริการ ความต่างคือข้อความตอบกลับที่ได้รับ: *933#
จะตอบกลับเป็นภาษาไทย (เช่น “เบอร์นี้คือ 09X-XXX-XXXX ของทรูมูฟ”) ส่วน *833#
จะตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ (เช่น “Your number is 09X-XXX-XXXX”). หากคุณสะดวกภาษาไหนก็เลือกใช้รหัสนั้นได้เลย ผลลัพธ์ที่ได้เหมือนกัน
Q: การเช็คเบอร์ทรูมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
A: ไม่มีค่าใช้จ่าย ทุกวิธีที่แนะนำในบทความนี้สำหรับการตรวจสอบหมายเลขทรูมูฟ เอช ของคุณ (ไม่ว่าจะกด *933#, โทร 9303, ใช้แอป หรืออื่นๆ) ล้วนให้บริการฟรี โดยทรูไม่คิดเงินใดๆ เพิ่มเติมจากแพ็กเกจของคุณ. ดังนั้นคุณสามารถเช็คเบอร์ได้บ่อยเท่าที่ต้องการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
Q: ถ้าไม่มีโทรศัพท์ที่ใส่ซิมทรูอยู่ จะเช็คเบอร์ได้อย่างไร?
A: ในกรณีที่คุณไม่มีอุปกรณ์ที่ใส่ซิมทรูอยู่ (เช่น ทำโทรศัพท์หายหรือซิมไม่อยู่กับตัว) คุณยังสามารถเช็คเบอร์ได้โดย ติดต่อทรูคอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1242 (จากโทรศัพท์เครื่องอื่น) หรือไปที่ศูนย์บริการ True Shop. เจ้าหน้าที่จะขอข้อมูลยืนยันตัวตน (เช่น เลขบัตรประชาชน, ชื่อผู้จดทะเบียนซิม) และเมื่อยืนยันได้ถูกต้อง เขาจะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในชื่อคุณให้ทราบ. วิธีนี้เป็นวิธีสำรองเมื่อเราไม่สามารถใช้วิธีอื่นด้วยตนเองได้
Q: มีวิธีเช็คว่าเบอร์นี้ลงทะเบียนชื่อใครไหม?
A: หากคุณต้องการตรวจสอบว่าเบอร์ทรูมูฟ เอช นั้นลงทะเบียนในชื่อใคร (เช่น ตรวจสอบชื่อเจ้าของซิม) ทรูมีบริการให้กด *993*เลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก#
แล้วโทรออก. ระบบจะแจ้งชื่อ-นามสกุลผู้ลงทะเบียนซิมเบอร์นั้นกลับมา (หรือยืนยันว่าตรงกับเลขบัตรที่กรอกหรือไม่). อย่างไรก็ตาม บริการนี้ออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของเบอร์ตรวจสอบข้อมูลตัวเองเป็นหลัก ไม่ควรใช้เพื่อสอดรู้ข้อมูลผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณสามารถเช็คเบอร์ทรูหรือค้นหาหมายเลขทรูมูฟ เอช ของคุณได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตรงความต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกค้าใหม่ที่ยังจำเบอร์ไม่ได้ หรือผู้ใช้งานปัจจุบันที่แค่หลงลืมชั่วคราว ทุกปัญหามีทางออกเสมอด้วยบริการต่างๆ ที่ทรูมูฟ เอช เตรียมไว้ให้. คราวหน้าหากสงสัยหรือจำเบอร์ตัวเองไม่ได้อีก ก็เพียงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วลองวิธีใดวิธีหนึ่งที่เราแนะนำ รับรองว่าคุณจะได้คำตอบภายในไม่กี่อึดใจ. 🎉
อ้างอิง: ข้อมูลบางส่วนจาก TrueMove H, Pantip, Thairath, และแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ เพื่อความถูกต้องและอัพเดตล่าสุดของวิธีการเช็คเบอร์ (อัปเดตปี 2567-2568)
บทความนี้ได้รับการเพิ่มเติมและปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2568

ชื่อของฉันคือ นิรุตติ์ แสนไชย
ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านโทรคมนาคม ฉันเคยทำงานในบริษัททั้งหมดในประเทศไทย: AIS (เครื่องหมายการค้า 1-2-call), DTAC (เครื่องหมายการค้า Happy) และ True Mobile
ฉันหวังว่าเว็บไซต์ของฉันจะช่วยคุณได้และจะมีประโยชน์มาก
เบอร์ทรูมูฟ คอลเซ็นเตอร์
เบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการลูกค้า (call center) ของทรูมูฟ เป็น 1242 โดยสามารถโทรหาศูนย์บริการลูกค้านี้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อโทรจากเบอร์โทรศัพท์ของทรูมูฟหรือโทรฟรีจากโทรศัพท์สาธารณะ หรือโทรจากเบอร์โทรศัพท์อื่นๆ ก็ตามแต่บริการของโทรศัพท์นั้นๆ นอกจากนี้ ทรูมูฟยังมีช่องทางการติดต่ออื่นๆ เช่น อีเมล์ แชทบอท และแอปพลิเคชัน ที่สามารถใช้ติดต่อสอบถามและแก้ไขปัญหาได้ด้วย
ยกเลิก sms ข้อความประชาสัมพันธ์ หรือ
ไม่สามารถยกเลิก SMS ข้อความประชาสัมพันธ์ที่ถูกส่งไปแล้วได้ เนื่องจากเป็นการส่งข้อความแบบทั่วไป ไม่ใช่การส่งผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่สามารถยกเลิกได้ในขณะที่ข้อความยังไม่ถูกส่งออกไปยังผู้รับ ดังนั้น ถ้าไม่ต้องการรับข้อความประชาสัมพันธ์ต่อไป สามารถติดต่อผู้ส่งข้อความหรือบริษัทผู้ให้บริการเพื่อร้องขอยกเลิกการรับ SMS ได้ แต่ไม่สามารถยกเลิกได้โดยตรงผ่านทางโทรศัพท์มือถือของผู้รับข้อความได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งข้อความมักจะมีการแจ้งเลข short code หรือหมายเลขส่งข้อความที่ใช้ส่ง SMS ประชาสัมพันธ์ ซึ่งผู้รับสามารถแจ้งเบอร์นี้ไปยังแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ให้บริการยกเลิกการรับ SMS ได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ให้บริการ SMS หรือติดต่อแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องเพื่อดูวิธีการยกเลิกการรับ SMS ในแต่ละกรณีว่าเป็นอย่างไร
ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของทรูมูฟหรือทรูมูฟมั้ย? หรือว่าเบอร์ของ truemove? หรือเบอร์ของทรู? หรือเบอร์ของทรูมูฟ?
ถ้าคุณต้องการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของทรูมูฟ คุณสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของทรูมูฟเพื่อค้นหาได้ สำหรับการค้นหาเบอร์ของ truemove หรือทรู คุณอาจต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทโทรคมนาคมเหล่านั้นเพื่อค้นหาเบอร์ที่ต้องการค้นหาค่ะ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ของทรูมูฟ สามารถค้นหาได้โดยการใช้แอปพลิเคชัน My TrueID ของทรูมูฟนะคะ
เว็บไซต์เช็คเบอร์โทรศัพท์ของทรูมูฟที่เป็นทางการคือ https://www.trueid.net/checkmysim/ ค่ะ