การสมัครเน็ตในประเทศไทยมีทางเลือกมากมาย ทั้งเครือข่ายมือถืออย่าง AIS, TrueMove H, dtac รวมถึงผู้ให้บริการเน็ตบ้านอย่าง 3BB, TOT, NT และอื่น ๆ การจะเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมจึงอาจทำให้มือใหม่สับสนได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทุกประเภทการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ตั้งแต่มือถือ 3G/4G/5G, เน็ตบ้านผ่านสาย ADSL/Fiber, ไปจนถึงบริการ Wi-Fi สาธารณะ พร้อมทั้งใช้คำศัพท์เทคนิคและเปรียบเทียบจุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละค่าย เพื่อให้ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้งานระดับสูงเข้าใจและตัดสินใจเลือกแพ็กเกจเน็ตได้อย่างมั่นใจ
เราจะพูดถึงวิธีการสมัครแพ็กเกจแบบเติมเงินและรายเดือนของมือถือ การติดตั้งเน็ตบ้านความเร็วสูง รวมถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ต 5G ที่กำลังเป็นที่นิยม นอกจากนี้ยังมีตารางราคาค่าแพ็กเกจ รายชื่อโปรโมชั่นยอดนิยม ข้อดีข้อเสียของแต่ละบริการ คำแนะนำในการเลือกซื้อ ตลอดจนรวมความคิดเห็นจากผู้ใช้จริงในเว็บบอร์ดอย่าง Pantip และโซเชียล เช่น Twitter ที่จะช่วยให้เห็นภาพรวมของคุณภาพการให้บริการแต่ละเจ้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อินเทอร์เน็ตมือถือ (Mobile Internet)
ตลาดอินเทอร์เน็ตมือถือในไทยมีการแข่งขันสูง โดยมีผู้ให้บริการหลัก 3 รายคือ AIS, TrueMove H และ dtac ซึ่งแต่ละค่ายมีทั้งระบบเติมเงิน (prepaid) และรายเดือน (postpaid) รวมถึงรองรับเทคโนโลยี 3G/4G LTE และล่าสุด 5G อย่างเต็มรูปแบบ ผู้ใช้สามารถสมัครโปรเน็ตมือถือผ่านหลายช่องทาง เช่น กดรหัส USSD, สมัครผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการ หรือซื้อแพ็กเกจเสริมจากเว็บไซต์
AIS – แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมือถือ
AIS (เครือข่ายวัน-ทู-คอล 1-2-Call สำหรับระบบเติมเงิน) เป็นผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพสัญญาณและความครอบคลุม AIS มีแพ็กเกจเน็ตให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบไม่จำกัดปริมาณ (จำกัดความเร็ว “ไม่ลดสปีด”) และแบบจำกัดปริมาณที่ความเร็วเต็มสปีด ตัวอย่างแพ็กเกจยอดนิยมของ AIS ได้แก่:
ชื่อแพ็กเกจ | รายละเอียด | ราคา |
---|---|---|
ไม่ลดสปีด 1 Mbps รายวัน | อินเทอร์เน็ตไม่อั้น ความเร็วคงที่ 1 Mbps ใช้ได้ 24 ชั่วโมง | ประมาณ 19 บาท |
ไม่ลดสปีด 4 Mbps รายสัปดาห์ | อินเทอร์เน็ตไม่อั้น ความเร็วคงที่ 4 Mbps ใช้ได้ 7 วัน | ประมาณ 150 บาท |
เต็มสปีด 20 GB รายเดือน | อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 20GB จากนั้นลดความเร็ว | ประมาณ 299–399 บาท |
สำหรับระบบรายเดือน AIS มีแพ็กเกจ 5G Max Speed แบบใช้งานไม่จำกัด (unlimited) ในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตมือถือปริมาณมาก การสมัครแพ็กเกจสามารถทำผ่านแอป MyAIS หรือกด *777# แล้วทำตามเมนู นอกจากนี้ AIS ยังมีบริการเสริมอย่าง AIS SUPER Wi-Fi ให้ลูกค้าเชื่อมต่อไวไฟฮอตสปอตตามสถานที่ต่าง ๆ ได้ฟรีในหลายแพ็กเกจ
TrueMove H – แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมือถือ
TrueMove H เป็นอีกค่ายมือถือใหญ่ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก (รวมฐานลูกค้าหลังควบรวมกับ dtac กว่า 51.5 ล้านเลขหมาย0) จุดเด่นของทรูคือมีบริการครบวงจรทั้งมือถือ เน็ตบ้าน เคเบิลทีวี (True Visions) และไวไฟฮอตสปอต True Wi-Fi ที่ครอบคลุม ในส่วนของแพ็กเกจเน็ตมือถือ TrueMove H ก็มีลักษณะคล้าย AIS คือมีให้เลือกทั้งแบบไม่อั้นความเร็วคงที่ และแบบเต็มสปีดตามปริมาณ
ชื่อแพ็กเกจ | รายละเอียด | ราคา |
---|---|---|
เน็ตทรู 2 Mbps ไม่ลดสปีด | เน็ตมือถือไม่จำกัดปริมาณ ความเร็ว 2 Mbps (รายวัน/รายสัปดาห์มีให้เลือก) | เริ่มต้น ~20 บาท/วัน |
เน็ตทรู 10 Mbps ไม่ลดสปีด รายเดือน | เน็ตมือถือไม่อั้น ความเร็วคงที่สูง 10 Mbps ใช้ได้ 30 วัน | ประมาณ 450 บาท |
แพ็กเกจ 5G Ultra Max | เน็ตเต็มสปีด 100GB + โทรฟรีทุกเครือข่าย (แพ็กเกจรายเดือน 5G ระดับพรีเมียม) | ประมาณ 899 บาท |
TrueMove H มีจุดแข็งที่การรวมบริการ เมื่อสมัครแพ็กเกจรายเดือนมักได้สิทธิพิเศษ เช่น ดู TrueID+ หรือใช้ True Wi-Fi ไม่จำกัดที่ความเร็วสูง สำหรับการสมัครโปรเน็ตทรูแบบเติมเงิน สามารถกด *900# ตามด้วยรหัสแพ็กเกจ หรือตรวจสอบและสมัครผ่านแอป True iService นอกจากนี้ TrueMove H ยังมีโปรโมชั่นร่วมกับทรูออนไลน์ (เน็ตบ้าน) หากใช้บริการทั้งมือถือและเน็ตบ้านกับทรูจะได้รับส่วนลดค่าแพ็กเกจหรือความเร็วที่เพิ่มขึ้น
dtac – แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตมือถือ
dtac (ดีแทค) แม้ปัจจุบันจะอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกับ TrueMove H หลังการควบรวม แต่ยังคงให้บริการในชื่อ dtac อยู่ แพ็กเกจเน็ตของดีแทคมีความยืดหยุ่นและมักมีโปรโมชั่นราคาประหยัดเพื่อดึงดูดลูกค้า ตัวอย่างเช่น โปรเน็ตไม่อั้น 4Mbps รายวันราคา 15–20 บาท และโปรรายเดือน Super 4G/5G ที่ให้ปริมาณเน็ตเยอะในราคาคุ้มค่า
ชื่อแพ็กเกจ | รายละเอียด | ราคา |
---|---|---|
ดีแทค Go โนลิมิต | เน็ตไม่อั้น ความเร็ว 10 Mbps ใช้ได้ 30 วัน | ประมาณ 300 บาท |
โปรเสริม 1 วัน | เน็ตเต็มสปีด 1GB ใช้ได้ 24 ชม. (สำหรับเติมเงิน) | ประมาณ 19 บาท |
dtac 5G Max | แพ็กเกจรายเดือน 5G ปริมาณ 60GB + โทรฟรีไม่จำกัด | ประมาณ 699 บาท |
จุดเด่นของดีแทคคือการให้บริการที่เรียบง่าย มีแอป dtac ที่ใช้งานสะดวกในการเช็คปริมาณเน็ตหรือซื้อแพ็กเกจเสริม ผู้ใช้บางส่วนให้ความเห็นว่าดีแทคมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เสถียรในเขตเมือง แต่พื้นที่นอกเมืองอาจครอบคลุมสู้ AIS หรือ True ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม หลังการควบรวมเครือข่ายกับ True สัญญาณ dtac มีแนวโน้มครอบคลุมมากขึ้นตามโครงข่ายที่รวมกันของทั้งสองบริษัท
เครือข่ายอื่น ๆ และ MVNO
นอกจาก AIS, True, และ dtac แล้วยังมีผู้ให้บริการมือถือรายย่อยและ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) ที่ให้บริการแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเฉพาะด้าน เช่น my by CAT (ปัจจุบันรวมอยู่ใน NT Mobile), Penguin SIM, FINN Mobile เป็นต้น ผู้ให้บริการเหล่านี้ใช้เสาสัญญาณโครงข่ายหลักจากค่ายใหญ่แต่เสนอแพ็กเกจราคาประหยัดหรือรูปแบบเฉพาะ (เช่น แพ็กเกจเน้นโซเชียลไม่อั้นหรือดู YouTube ไม่เสียค่าเน็ต) แม้ผู้ใช้งานอาจไม่มากเท่าค่ายหลัก แต่ก็เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองหาโปรเน็ตราคาถูกหรือเงื่อนไขพิเศษที่ต่างออกไป
อินเทอร์เน็ตบ้าน (Fixed Broadband)
สำหรับการใช้งานที่บ้านหรือสำนักงาน การติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านผ่านสายเคเบิลหรือไฟเบอร์ (Fiber optic) จะให้ความเร็วและความเสถียรมากกว่ามือถือ ปัจจุบันเทคโนโลยี ADSL แบบสายทองแดงเริ่มถูกแทนที่ด้วยไฟเบอร์ออปติก (FTTH) ที่รองรับความเร็วสูงระดับ 100–1000 Mbps ผู้ให้บริการเน็ตบ้านหลักในไทยได้แก่ AIS (AIS Fibre), True (True Online), 3BB, และ NT (รวมกิจการ TOT และ CAT เดิม) ซึ่งแต่ละเจ้ามีแพ็กเกจหลายระดับความเร็วและราคาต่างกัน
AIS Fibre
AIS Fibre เป็นบริการบรอดแบนด์ของ AIS ที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว จุดเด่นคือคุณภาพการให้บริการและความเสถียรของเครือข่าย ในช่วงแรก AIS Fibre อาจมีพื้นที่บริการจำกัดเฉพาะในเมืองใหญ่ แต่ปัจจุบันได้ขยายอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเข้าซื้อกิจการ 3BB ในปี 2022 เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและโครงข่ายไฟเบอร์1 ทำให้ AIS Fibre กลายเป็นผู้เล่นรายสำคัญที่มีโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ
AIS Fibre มีแพ็กเกจเน็ตบ้านหลากหลาย ตั้งแต่ความเร็วระดับ 300/300 Mbps ในราคาเริ่มต้นประมาณ 399–499 บาทต่อเดือน ไปจนถึงแพ็กเกจความเร็ว 1 Gbps สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงเป็นพิเศษ โดยบางแพ็กเกจมีแถมกล่องรับสัญญาณ AIS Playbox สำหรับรับชมความบันเทิงออนไลน์ นอกจากนี้ลูกค้า AIS Fibre ยังได้สิทธิ์ใช้ AIS SUPER Wi-Fi นอกบ้าน รวมถึงส่วนลดพิเศษหากเป็นลูกค้า AIS มือถือควบคู่กัน
ผู้ใช้งานหลายคนบนชุมชนออนไลน์ได้รีวิว AIS Fibre ในทางบวก โดยกล่าวถึงความเร็วที่ได้เต็มตามแพ็กเกจและการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว อย่างเช่นมีผู้ใช้หนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “ใช้ AIS Fibre มาปีกว่าๆ สัญญาณไม่เคยล่มเลย ความเร็วก็มาเต็ม” ในภาพรวม AIS Fibre ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับเน็ตบ้านในด้านคุณภาพ แม้ราคาอาจสูงกว่าคู่แข่งเล็กน้อยแต่หลายคนยอมจ่ายเพื่อความเสถียร
True Online (True Broadband)
True Online หรือเน็ตบ้านทรู เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ True มีโครงข่ายครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และมีชื่อเสียงในด้านการทำโปรโมชั่นความเร็วสูงราคาคุ้มค่า เช่น ในปี 2022 True ได้เปิดตัวแพ็กเกจไฟเบอร์ 2 Gbps อย่างเป็นทางการที่ความเร็ว 2 กิกะบิตในราคาเริ่มต้นเดือนละ 1,299 บาท2 ซึ่ง ณ เวลานั้นถือว่าเป็นความเร็วสูงสุดที่ให้บริการลูกค้าบุคคลทั่วไปในไทย
แพ็กเกจยอดนิยมของ True Online มีหลายระดับ เช่น 500/500 Mbps, 1 Gbps (1000/500 Mbps) ไปจนถึงแพ็กเกจพิเศษ 2 Gbps ตามที่กล่าวข้างต้น นอกจากนี้ True ยังมักพ่วงบริการอื่น ๆ ในแพ็กเกจเน็ตบ้าน เช่น การให้ยืมเราเตอร์ Wi-Fi 6 รุ่น True Gigatex Pro และกล่อง TrueID TV สำหรับชมรายการโทรทัศน์และสตรีมมิ่ง ทั้งนี้ TrueOnline ยังมีจุดแข็งเรื่องจำนวนจุดบริการ True Shop ที่ผู้ใช้สามารถติดต่อได้สะดวก และมี True Wi-Fi ให้ใช้งานฟรีในพื้นที่สาธารณะสำหรับลูกค้าเน็ตบ้านทรู
ในด้านเสียงตอบรับ ผู้ใช้บางส่วนชื่นชม TrueOnline ว่ามีความเสถียรและความเร็วตรงตามแพ็กเกจ แต่บางรายก็ประสบปัญหาในบางช่วง เช่น ความเร็วอินเทอร์เน็ตอาจลดลงในช่วงเวลาค่ำที่มีการใช้งานสูง อย่างไรก็ตาม True ก็มุ่งพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและได้รับรางวัลจาก nPerf ว่าเป็นผู้ให้บริการเน็ตบ้านอันดับ 1 ของไทยในบางปี3 ซึ่งสะท้อนถึงประสบการณ์โดยรวมที่น่าพอใจ
3BB
3BB (ทริปเปิลทีบรอดแบนด์) เป็นผู้ให้บริการเน็ตบ้านที่สร้างชื่อจากการทำสงครามราคาในยุค ADSL และต่อเนื่องมาถึงยุคไฟเบอร์ โดยเน้นแพ็กเกจ “ไฟเบอร์แท้” ราคาคุ้มค่า ปัจจุบัน 3BB มีแพ็กเกจหลักคือ 3BB GIGA Fiber ความเร็วเริ่มต้น 1 Gbps ในราคาไม่ถึง 700 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าถูกเมื่อเทียบกับความเร็วที่ได้ นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจเสริมเช่น ดูฟรีกล่อง HBO Go หรือ MONOMAX ขึ้นกับโปรโมชั่นช่วงนั้น
แม้ 3BB จะไม่ได้มีบริการมือถือหรือคอนเทนต์เสริมแบบค่ายอื่น ๆ แต่ด้วยราคาที่จับต้องได้ ทำให้ฐานลูกค้าเติบโตอย่างมากจนกระทั่ง AIS เข้าซื้อกิจการ 3BB และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน JASIF ในปี 2022 เพื่อนำโครงข่ายและลูกค้า 3BB มาเสริมทัพ AIS Fibre4 การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ผู้ใช้ 3BB ได้รับบริการภายใต้ AIS ในอนาคต แต่ในระยะสั้น 3BB ยังคงดำเนินการภายใต้แบรนด์เดิมอยู่
การควบรวมดังกล่าวทำให้มีผู้ใช้บางรายแสดงความคิดเห็นแบบขำขันว่า “AIS fiber ชอบโทรมาให้สมัคร (ใช้ 3BB อยู่) เลยไม่ต้องแล้วสินะ”5 สะท้อนว่าลูกค้า 3BB ไม่ต้องกังวลกับการถูกชักชวนให้ย้ายค่ายไป AIS อีกต่อไปเมื่อทั้งสองบริษัทกลายเป็นเจ้าเดียวกัน
เสียงสะท้อนจากผู้ใช้ 3BB ในโลกออนไลน์มีหลากหลาย บางคนพอใจกับความคุ้มค่าของราคาและความเร็วที่ได้รับ ขณะที่บางส่วนพบปัญหาความเร็วตกหรือเน็ตหลุดบ้างในบางช่วงเวลา ผู้ใช้รายหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า “3BB ราคาถูกก็จริงแต่ช่วงหัวค่ำบางวันเน็ตจะหน่วง ๆ (อาจเพราะคนใช้เยอะ)” ซึ่งสะท้อนว่าถึงแม้ 3BB จะคุ้มค่าแต่ก็อาจมีช่วงเวลาที่คุณภาพลดลง อย่างไรก็ดี โดยรวมแล้ว 3BB เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเน็ตไฟเบอร์ความเร็วสูงในงบประมาณจำกัด
NT Broadband (TOT เดิม)
NT หรือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เกิดจากการควบรวมระหว่าง TOT และ CAT Telecom ในปี 2021 จึงให้บริการทั้งโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตบ้านภายใต้หน่วยงานเดียวกัน ในส่วนของเน็ตบ้าน NT สืบทอดฐานลูกค้าและโครงข่ายมาจาก TOT เดิม ซึ่งมีทั้งเทคโนโลยี ADSL/VDSL ในพื้นที่ห่างไกล และบริการไฟเบอร์ความเร็วสูงในชื่อ NT Broadband ซึ่งปัจจุบันมีแพ็กเกจราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ตัวอย่างแพ็กเกจ NT Broadband เช่น ความเร็ว 500/500 Mbps ค่าใช้จ่ายราว 450–500 บาท/เดือน หรือแพ็กเกจ 1000/500 Mbps ราคา ~590 บาท/เดือน6 และยังมีแพ็กเกจระดับ 1 Gbps แบบสมมาตร 1000/1000 Mbps ในราคาเพียง 900 บาทต่อเดือน7 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จูงใจมาก นอกจากนี้ NT ยังมีบริการ “C internet” ในบางพื้นที่และบริการเสริมอื่น ๆ เช่นโทรศัพท์บ้านและ SIM มือถือ my by CAT ภายใต้บริษัทเดียวกัน
จุดเด่นของ NT คือเครือข่ายสายที่สืบทอดมาจากรัฐวิสาหกิจ ทำให้มีโครงข่ายเข้าถึงหลายพื้นที่ แม้แต่ในต่างจังหวัดหรือหมู่บ้านชนบทที่ค่ายอื่นอาจยังไปไม่ถึง อย่างไรก็ตาม ในด้านบริการลูกค้าและความพึงพอใจ อาจพบความคิดเห็นที่หลากหลาย บางคนกล่าวว่าใช้งานได้ดีคุ้มราคา ขณะที่บางส่วนตำหนิเรื่องความล่าช้าในการซ่อมบำรุงหรือการประสานงานของเจ้าหน้าที่ แต่โดยรวม NT Broadband ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ตัวเลือกผู้ให้บริการอื่นมีจำกัด
อินเทอร์เน็ต 5G คืออะไร?
5G คือเครือข่ายโทรศัพท์มือถือยุคที่ 5 ที่มีความเร็วและประสิทธิภาพสูงกว่า 4G หลายเท่า ในประเทศไทยเครือข่าย 5G เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2020 โดย AIS, TrueMove H และ dtac ต่างก็ประมูลคลื่น 5G และทยอยติดตั้งเสาสัญญาณในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสัญญาณ 5G ครอบคลุมในเมืองใหญ่และจังหวัดสำคัญเกือบทั่วประเทศ ความเร็วเฉลี่ยของ 5G ในไทยสามารถทำได้มากกว่า 1 Gbps ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
การใช้งานอินเทอร์เน็ต 5G เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเร็วสูงเป็นพิเศษบนมือถือ หรือใช้เป็นเน็ตบ้านผ่านอุปกรณ์เราเตอร์ 5G (Fixed Wireless Access) ในพื้นที่ที่ยังไม่สะดวกติดตั้งสายไฟเบอร์ ผู้ใช้จำเป็นต้องมีสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่รองรับ 5G และอยู่ในพื้นที่สัญญาณครอบคลุมจึงจะใช้งานได้ ซึ่งเครือข่ายทั้งสามค่ายหลักต่างโฆษณาว่ามีเสาสัญญาณ 5G ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประชากรแล้ว
ในด้านแพ็กเกจ ปัจจุบันแพ็กเกจรายเดือนหลายตัวก็รวมการใช้งาน 5G ไว้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม (เพียงแค่มีอุปกรณ์รองรับ) เช่น แพ็กเกจ 5G ของ AIS และ True หลายตัวให้ปริมาณเน็ตไม่จำกัด หรือมีปริมาณมาก (เช่น 100–200 GB ต่อเดือน) เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปได้สบาย นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจ Home Wireless Broadband ที่ใช้ซิม 5G ใส่เราเตอร์ให้ปล่อย Wi-Fi ภายในบ้าน ซึ่งบางค่ายเริ่มทำตลาดเพื่อเป็นทางเลือกแทนการลากสาย เช่น กรณีที่คอนโดไม่สามารถติดตั้งสายเน็ตบ้านเพิ่มได้ ผู้ใช้ก็อาจเลือกใช้เราเตอร์ 5G แทน ซึ่งติดตั้งง่ายและให้ความเร็วใกล้เคียงไฟเบอร์แม้ว่าในทางปฏิบัติยังอาจสู้การต่อสายตรงไม่ได้ในเรื่องความเสถียร
แพ็กเกจ Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตสาธารณะ
นอกจากอินเทอร์เน็ตผ่านซิมมือถือและสายเคเบิลแล้ว ในไทยยังมีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) สาธารณะตามสถานที่ต่าง ๆ ที่คุณสามารถสมัครใช้งานได้ เช่น เครือข่าย 3BB Wi-Fi, AIS SUPER WiFi, True Wi-Fi และ NT Wi-Fi บริการเหล่านี้มักมีจุดกระจายสัญญาณ (Hotspot) ในห้างสรรพสินค้า ร้านกาแฟ โรงแรม มหาวิทยาลัย และสนามบิน โดยเปิดให้ลูกค้าของตนใช้งานฟรีหรือคิดค่าบริการตามแพ็กเกจ
ตัวอย่างเช่น True ให้บริการ Wi-Fi ความเร็วสูงในหลายพื้นที่ซึ่งลูกค้า TrueMove H หรือ TrueOnline สามารถล็อกอินใช้ได้ฟรีตามสิทธิแพ็กเกจ ขณะที่ 3BB ให้บริการ 3BB Wi-Fi สำหรับประชาชนทั่วไปที่สามารถซื้อบัตรเติมเวลาได้ (เช่น ชั่วโมงละ ~10 บาท หรือรายเดือน ~100 บาท) ส่วน AIS ก็มี AIS SUPER WiFi ที่มอบความเร็วระดับ 650 Mbps ให้ลูกค้าที่สมัครแพ็กเกจรายเดือนระดับกลางขึ้นไปใช้งานได้ไม่จำกัด เป็นต้น
ข้อดีของ Wi-Fi สาธารณะคือมักให้ความเร็วสูงและไม่จำกัดปริมาณ แต่ข้อจำกัดคือคุณต้องอยู่ในบริเวณที่มีสัญญาณฮอตสปอต และบางครั้งต้องผ่านขั้นตอนล็อกอินหรือมีโฆษณา ทั้งนี้ ปัจจุบันความนิยมในการใช้ Wi-Fi สาธารณะอาจลดลงบ้าง เพราะแพ็กเกจเน็ตมือถือแบบไม่อั้นมีราคาถูกลงมาก ทำให้หลายคนเลือกจะใช้ 4G/5G ส่วนตัวแทน แต่บริการ Wi-Fi เหล่านี้ยังมีประโยชน์ในกรณีที่สัญญาณมือถืออ่อนหรือเมื่อคุณต้องการประหยัดปริมาณดาต้ามือถือของคุณ
ข้อดีและข้อเสียของผู้ให้บริการแต่ละราย
เพื่อช่วยในการตัดสินใจ นี่คือการสรุปข้อดีข้อเสียของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลักแต่ละรายในประเทศไทย:
- AIS: ข้อดี – สัญญาณมือถือครอบคลุมทั่วประเทศ คุณภาพบริการและความเสถียรสูงทั้งเน็ตมือถือและเน็ตบ้าน (AIS Fibre) มีบริการลูกค้าดี; ข้อเสีย – ราคาค่าแพ็กเกจค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย แพ็กเกจระดับถูกอาจได้ปริมาณเน็ตน้อยกว่าค่ายอื่น
- TrueMove H / TrueOnline: ข้อดี – มีบริการครบวงจร (มือถือ เน็ตบ้าน เคเบิลทีวี Wi-Fi) โปรโมชั่นหลากหลาย ราคาคุ้มค่าในหลายแพ็กเกจ มีจุดบริการ True Shop จำนวนมาก; ข้อเสีย – บางพื้นที่มีปัญหาความแออัดของเครือข่าย (ช่วงคนใช้เยอะความเร็วอาจตก) และการควบรวมกับดีแทคอาจทำให้ช่วงเปลี่ยนผ่านมีปัญหาบ้าง
- dtac: ข้อดี – แพ็กเกจราคาถูกและยืดหยุ่น แอปใช้งานง่าย มีโปรเสริมออกใหม่บ่อย เหมาะกับคนงบจำกัด; ข้อเสีย – เครือข่าย (ก่อนควบรวม) ครอบคลุมน้อยกว่า 2 ค่ายใหญ่ อาจมีจุดอับสัญญาณในต่างจังหวัด แต่สถานการณ์ดีขึ้นหลังรวมโครงข่ายกับ True
- 3BB: ข้อดี – ราคาเน็ตบ้านไฟเบอร์ถูกเมื่อเทียบความเร็ว คุ้มค่ามากสำหรับผู้ใช้งบจำกัด; ข้อเสีย – ไม่มีบริการมือถือหรือคอนเทนต์เสริม การบริการหลังการขายและความเสถียรขึ้นอยู่กับพื้นที่ บางพื้นที่อาจมีปัญหาช่วงใช้งานหนาแน่น
- NT (TOT/CAT): ข้อดี – โครงข่ายรัฐครอบคลุมกว้างขวาง มีทั้งเน็ตบ้านและมือถือ แพ็กเกจไฟเบอร์ราคาย่อมเยา; ข้อเสีย – ภาพลักษณ์การบริการลูกค้ายังเป็นระบบราชการ ปัญหาขัดข้องอาจใช้เวลาซ่อมนานกว่าคู่แข่งในบางกรณี
ทั้งนี้ ข้อดีข้อเสียดังกล่าวเป็นภาพรวมทั่วไป ผู้ใช้แต่ละคนอาจมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการตัดสินใจเลือกควรพิจารณาจากการใช้งานจริงของตนเองเป็นหลัก
เคล็ดลับในการเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้เหมาะกับคุณ
เมื่อทราบข้อมูลของแต่ละค่ายแล้ว ต่อไปนี้คือคำแนะนำ/เคล็ดลับในการเลือกซื้อแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้คุ้มค่าและตรงกับความต้องการของคุณ:
- ประเมินรูปแบบการใช้งาน: หากคุณใช้เน็ตเพื่อโซเชียลมีเดียและดูวิดีโอบนมือถือ ไม่ค่อยใช้งานหนัก การสมัครโปรเน็ตมือถือแบบไม่อั้นความเร็วปานกลาง (เช่น 4-10 Mbps) อาจเพียงพอ แต่ถ้าคุณทำงานจากบ้าน เล่นเกมออนไลน์ หรือสตรีม Netflix ความละเอียดสูง ควรติดเน็ตบ้านไฟเบอร์เพื่อความเสถียรและความเร็วที่สูงกว่า
- ตรวจสอบพื้นที่ให้บริการ: เช็คว่าที่บ้านหรือที่ทำงานของคุณมีผู้ให้บริการเน็ตบ้านเจ้าใดบ้าง (เช่น บางคอนโดอาจมีเฉพาะ True หรือ AIS) และสัญญาณมือถือค่ายใดแรงที่สุดในบริเวณนั้น หากพื้นที่ของคุณสัญญาณ AIS แรงกว่า True มาก ก็ควรเลือก AIS และในทางกลับกัน
- เปรียบเทียบราคาและโปรโมชัน: แต่ละค่ายมักมีโปรโมชันส่งเสริมการขาย เช่น ลดราคาค่าบริการ 1-3 เดือนแรก แถมอุปกรณ์ฟรี หรือรวมแพ็กเกจพิเศษ ลองเปรียบเทียบราคาแพ็กเกจที่ความเร็วหรือปริมาณใกล้เคียงกันระหว่างค่าย (ตารางราคาในบทความนี้ช่วยได้) และคำนึงถึงของแถมหรือสิทธิพิเศษที่คุณจะได้รับด้วย
- พิจารณาการบริการหลังการขาย: อินเทอร์เน็ตเป็นบริการที่อาจเกิดปัญหาได้ การตอบสนองแก้ไขของผู้ให้บริการจึงสำคัญ ลองค้นหาความเห็นของผู้ใช้ในพื้นที่เดียวกับคุณบน Pantip หรือกลุ่ม Facebook ว่าเจ้าไหนให้บริการหลังขายดี เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- สัญญาผูกมัดและอุปกรณ์: สำหรับเน็ตบ้าน ผู้ให้บริการมักกำหนดสัญญาขั้นต่ำ 12 เดือน หากยกเลิกก่อนอาจมีค่าปรับ รวมถึงมีค่าแรกเข้าหรือค่าติดตั้งที่บางครั้งยกเว้นให้ หากคุณไม่แน่ใจว่าจะใช้นานไหม ควรสอบถามเงื่อนไขเหล่านี้ก่อน นอกจากนี้หากมีเราเตอร์ Wi-Fi แถมมา ตรวจสอบว่ารองรับความเร็วและจำนวนอุปกรณ์ที่คุณต้องการหรือไม่
- รวมบริการเพื่อส่วนลด: ถ้าคุณใช้ทั้งมือถือและต้องการติดเน็ตบ้าน ลองพิจารณาใช้ผู้ให้บริการรายเดียวกันทั้งสองบริการ เพราะหลายค่ายมีส่วนลด bundle เช่น ส่วนลดค่ามือถือรายเดือนเมื่อมีเน็ตบ้าน หรือได้อัปสปีดเน็ตบ้านฟรีเมื่อมีแพ็กเกจมือถือบางระดับ
การเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ลื่นไหล ไม่สะดุด และคุ้มค่ากับค่าใช้จ่ายที่เสียไป หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสมัครเน็ต (FAQ)
Q: ควรเลือกเน็ตมือถือหรือเน็ตบ้านดีกว่ากัน?
A: ถ้าคุณใช้งานอินเทอร์เน็ตแค่บนมือถือ ไม่ได้ใช้งานปริมาณมากหรือมีอุปกรณ์หลายเครื่อง การสมัครแพ็กเกจเน็ตมือถือแบบไม่จำกัดก็อาจเพียงพอ แต่ถ้าคุณมีการใช้งานหลายอุปกรณ์พร้อมกัน เล่นเกมออนไลน์ หรือสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง การติดตั้งเน็ตบ้านไฟเบอร์จะให้ความเร็วและความเสถียรกว่ามาก ดังนั้นควรพิจารณาตามลักษณะการใช้งานของคุณ
Q: อินเทอร์เน็ต 5G ต่างจาก 4G อย่างไร?
A: 5G มีความเร็วสูงกว่า 4G หลายเท่า และรองรับอุปกรณ์จำนวนมากในเวลาเดียวกัน โดย 5G ในไทยสามารถทำความเร็วได้เป็นกิกะบิตต่อวินาที (ในสภาพแวดล้อมเหมาะสม) ในขณะที่ 4G มักทำได้ระดับหลายสิบถึงร้อย Mbps นอกจากนี้ 5G ยังมีค่าหน่วง (latency) ต่ำกว่า ทำให้ตอบสนองเร็ว เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วแบบเรียลไทม์ เช่น เกมออนไลน์หรือ IoT
Q: แพ็กเกจ “ไม่ลดสปีด” หมายถึงอะไร?
A: “ไม่ลดสปีด” หมายถึงแพ็กเกจที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตคงที่ไม่ถูกปรับลดเมื่อใช้ไปถึงปริมาณที่กำหนด ต่างจากแพ็กเกจแบบจำกัดปริมาณที่เมื่อใช้ครบโควต้าความเร็วจะถูกปรับลดลง อย่างไรก็ตาม แพ็กเกจไม่ลดสปีดมักจะกำหนดความเร็วสูงสุดไว้ตายตัว (เช่น 4 Mbps หรือ 10 Mbps) ซึ่งแม้จะใช้งานไม่จำกัดแต่จะไม่เร็วไปกว่าเพดานที่กำหนด
Q: ติดตั้งเน็ตบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง?
A: การติดตั้งเน็ตบ้านทั่วไป ผู้ให้บริการจะจัดส่งช่างมาติดตั้งสายและอุปกรณ์เราเตอร์ให้ สิ่งที่คุณต้องเตรียมคือสำเนาบัตรประชาชนสำหรับสมัครบริการ หลักฐานที่อยู่ (ในบางกรณี) และเตรียมพื้นที่ในบ้านสำหรับเดินสายไฟเบอร์หรือสายโทรศัพท์ นอกจากนี้ควรตรวจสอบปลั๊กไฟสำหรับจ่ายไฟให้เราเตอร์และตำแหน่งวางเราเตอร์ให้ครอบคลุมสัญญาณ Wi-Fi ทั่วบ้าน
Q: มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอื่น ๆ อีกไหมที่ไม่ได้กล่าวถึง?
A: นอกจากค่ายใหญ่ที่กล่าวมา ยังมีผู้ให้บริการเฉพาะกลุ่มหรือระดับท้องถิ่นอีกจำนวนหนึ่ง เช่น Sinet, AIS SME (สำหรับธุรกิจ), UIH, และผู้ให้บริการเคเบิลท้องถิ่นในบางจังหวัด ผู้ให้บริการเหล่านี้อาจไม่ได้มีชื่อเสียงทั่วประเทศแต่ก็ให้บริการในพื้นที่เฉพาะ หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีผู้ให้บริการเหล่านี้ ก็ควรศึกษาเงื่อนไขและคุณภาพบริการของเขาด้วยเช่นกัน
บทความได้รับการอัปเดตเมื่อวันที่ 10.04.2025

ชื่อของฉันคือ นิรุตติ์ แสนไชย
ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านโทรคมนาคม ฉันเคยทำงานในบริษัททั้งหมดในประเทศไทย: AIS (เครื่องหมายการค้า 1-2-call), DTAC (เครื่องหมายการค้า Happy) และ True Mobile
ฉันหวังว่าเว็บไซต์ของฉันจะช่วยคุณได้และจะมีประโยชน์มาก