เช็กเบอร์ตัวเอง AIS – วิธีค้นหาและตรวจสอบหมายเลข AIS ของคุณง่ายๆ
ลืมเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองหรือไม่แน่ใจว่าเบอร์ที่ใช้อยู่คืออะไร? ไม่ต้องกังวล! สำหรับผู้ใช้เครือข่าย AIS (เอไอเอส) มีหลายวิธีที่จะ ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ AIS ของคุณได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการกดรหัส USSD ง่ายๆ การใช้บริการข้อความ SMS แอปพลิเคชัน myAIS หรือช่องทางอื่นๆ บทความนี้ได้รวบรวมทุกวิธีในการ เช็คเบอร์ตัวเอง AIS หรือ ตรวจสอบเบอร์ AIS อย่างละเอียดเป็นขั้นตอน พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้วิธีที่สะดวกและเหมาะกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุด อีกทั้งเรายังนำความคิดเห็นและเคล็ดลับจากผู้ใช้ในเว็บบอร์ดยอดนิยมอย่าง Pantip มาแบ่งปัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่าคุณจะทำตามได้จริงและแก้ปัญหาได้ตรงจุด
มาดูกันว่ามีวิธี ค้นหาเบอร์ AIS หรือ หาเบอร์โทรศัพท์ AIS อย่างไรบ้าง และวิธีไหนที่เหมาะกับคุณที่สุดในตอนนี้
วิธีเช็คเบอร์ AIS ด้วยรหัส USSD (*545#)
วิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดในการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของคุณคือการกดรหัส USSD บนมือถือ รหัสมาตรฐานสำหรับเครือข่าย AIS คือ *545# กดโทรออก เมื่อกดรหัสนี้แล้ว ระบบจะส่งข้อความกลับมาที่หน้าจอโทรศัพท์ของคุณ ภายในไม่กี่วินาทีจะแสดงหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของคุณทันที (รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติม เช่น สถานะหรือระดับลูกค้า AIS ของคุณ) วิธีนี้สะดวกมากเพราะไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตและสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา แม้กระทั่งในสถานการณ์ที่คุณไม่มีเงินเหลือในซิมก็ยังสามารถใช้วิธีนี้ได้ เนื่องจากการเช็คเบอร์ผ่าน *545# ไม่มีค่าบริการ (ฟรี)
“กด *545# โทรออกเพื่อตรวจสอบหมายเลขได้ครับ”
ผู้ใช้ Pantip รายหนึ่งได้แนะนำวิธีนี้ไว้ ซึ่งยืนยันว่าการกด *545# เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใช้ได้ผลจริงในการค้นหาเบอร์ AIS ของตัวเอง ไม่ว่าคุณจะลืมเบอร์หรือมีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องทราบหมายเลขด่วน วิธีนี้ช่วยได้แน่นอน
ขั้นตอนการเช็คเบอร์ AIS ผ่าน USSD:
- เปิดแอปโทรออกบนมือถือของคุณ และกดหมายเลข
*545#
(ดาวน์โหลด 545 สี่เหลี่ยม) - กดปุ่มโทรออก และรอสักครู่ให้ระบบดำเนินการ
- บนหน้าจอโทรศัพท์จะปรากฏข้อความจากระบบ AIS แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ (เช่น “เบอร์มือถือของคุณคือ 08XXXXXXXX”) พร้อมข้อมูลอื่นๆ (เช่น ประเภทแพ็กเกจหรือสถานะลูกค้า)
เพียงเท่านี้คุณก็จะเห็นหมายเลขของตัวเองทันที วิธีนี้เรียกได้ว่า “ง่าย เร็ว และฟรี” ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใช้ AIS ส่วนใหญ่มักเลือกใช้การกด *545# เป็นอันดับแรกเมื่อจำเบอร์ตัวเองไม่ได้
หมายเหตุ:
- รหัส *545# นี้ใช้ได้กับทั้งลูกค้าเติมเงินและรายเดือนของ AIS หากเป็นเบอร์ระบบวันทูคอล (One-2-Call แบบเติมเงิน) ก็สามารถใช้รหัสเดียวกันได้
- การกด *545# เพื่อเช็คเบอร์ตัวเองไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และสามารถใช้ได้แม้ไม่มีเงินคงเหลือในโทรศัพท์
- นอกจากจะแจ้งเบอร์โทรศัพท์ของคุณแล้ว ระบบ AIS อาจแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม เช่น คุณเป็นลูกค้าประเภทใด (เช่น ลูกค้าปกติหรือ Serenade) หรือแจ้งแพ็กเกจปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ในการทราบสถานะบริการของคุณ
เช็คเครือข่ายเบอร์ปลายทาง (เบอร์คนอื่น) ผ่าน *727# (เกร็ดเสริม)
นอกเหนือจากการเช็คเบอร์ตนเองแล้ว AIS ยังมีรหัส USSD สำหรับตรวจสอบเครือข่ายของเบอร์ปลายทาง (เบอร์โทรศัพท์ของผู้อื่น) ได้ด้วย โดยใช้รหัส *727*หมายเลขโทรศัพท์# แล้วกดโทรออก วิธีนี้จะช่วยให้คุณทราบว่าเบอร์ปลายทางนั้นใช้เครือข่ายอะไร (AIS, Dtac, TrueMove H ฯลฯ) เหมาะในกรณีที่ต้องการตรวจสอบว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาหรือเบอร์ของเพื่อนอยู่ค่ายใด เช่น หากต้องการเช็คว่า 09XXXXXXXX เป็นเครือข่ายใด ก็สามารถกด *727*09XXXXXXXX# โทรออก จากนั้นระบบจะแจ้งกลับมาว่าเบอร์นั้นอยู่เครือข่ายอะไร
หมายเหตุ: รหัส *727# ใช้สำหรับตรวจสอบเครือข่ายเบอร์อื่นเท่านั้น ไม่ใช้ในการเช็คเบอร์ตัวเอง ดังนั้นอย่าสับสนนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ สำหรับการเช็คเบอร์ตัวเองให้ใช้ *545# ตามขั้นตอนด้านบน
วิธีเช็คเบอร์ AIS ผ่านแอป myAIS
อีกหนึ่งวิธีที่สะดวกในการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ AIS ของคุณคือการใช้แอปพลิเคชัน myAIS ซึ่งเป็นแอปอย่างเป็นทางการของ AIS สำหรับจัดการบัญชีผู้ใช้มือถือของคุณ แอปนี้ไม่เพียงแค่แสดงหมายเลขโทรศัพท์ของคุณเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลอื่นๆ เช่น ยอดเงินคงเหลือ แพ็กเกจที่ใช้งาน และบริการต่างๆ ที่สมัครไว้ ทั้งยังสามารถทำรายการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น เติมเงิน เช็คยอดอินเทอร์เน็ต หรือสมัครแพ็กเกจเสริม เป็นต้น เรียกได้ว่าครบวงจรในแอปเดียว
“สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้ผ่านทางแอป myAIS เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการจัดการทุกหมายเลขภายใต้บัญชีของลูกค้า”
คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ AIS (สมายล์-พิจิตรา) บนเว็บ Pantip ระบุว่าการใช้แอป myAIS ช่วยให้จัดการหมายเลขโทรศัพท์หลายๆ เบอร์ในบัญชีเดียวได้สะดวกยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีเบอร์ AIS มากกว่า 1 เบอร์ หรือผู้ที่ต้องการตรวจสอบข้อมูลอื่นของเบอร์ไปพร้อมกัน
ขั้นตอนการเช็คเบอร์ตัวเองผ่านแอป myAIS:
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป
myAIS
ลงบนสมาร์ทโฟนของคุณ (รองรับทั้งระบบ iOS และ Android) หากยังไม่มี สามารถหาได้จาก App Store หรือ Google Play - เปิดแอป myAIS แล้วเข้าสู่ระบบด้วยเบอร์ AIS ของคุณ หากยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน ให้เลือก “สมัครใช้งาน” และกรอกหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของคุณเพื่อรับรหัส OTP ทาง SMS จากนั้นตั้งรหัสผ่านเพื่อเข้าใช้งานแอป
- เมื่อเข้าสู่ระบบสำเร็จ คุณจะเห็นหน้าหลักของแอป myAIS ซึ่งจะแสดงข้อมูลบัญชีของคุณ เบอร์โทรศัพท์ AIS ของคุณจะแสดงอยู่ที่มุมบนของหน้าจอหรือในเมนูโปรไฟล์ (เช่น เห็นชื่อหรือหมายเลขโทรศัพท์ของคุณบนแอป)
- ตรวจสอบหมายเลขที่แสดงบนแอปว่าเป็นหมายเลขที่ต้องการเช็ค (แอปจะแสดงเบอร์ของซิมที่คุณใช้ล็อกอินโดยอัตโนมัติ) หากคุณมีหลายเบอร์ในบัญชี myAIS เดียวกัน คุณสามารถสลับดูหมายเลขอื่นๆ ได้ในเมนูจัดการหมายเลข
เมื่อทำตามขั้นตอนข้างต้น คุณจะพบหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของตนเองได้จากหน้าจอแอปโดยตรง นอกจากนี้แอป myAIS ยังแสดงรายละเอียดอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น ชื่อแพ็กเกจปัจจุบัน วันหมดอายุของแพ็กเกจ ยอดเน็ตคงเหลือ หรือแต้มสะสมต่างๆ จึงถือเป็นวิธีที่ให้ข้อมูลครบถ้วนที่สุด
ข้อดี:
- แอป myAIS ให้ข้อมูลครบครัน ไม่ใช่แค่หมายเลขโทรศัพท์ แต่รวมถึงยอดเงินและบริการต่างๆ ในที่เดียว
- สามารถจัดการหลายหมายเลขพร้อมกันได้ หากคุณมีเบอร์ AIS มากกว่า 1 เบอร์ (เพิ่มเบอร์อื่นๆ เข้ามาในบัญชีเดียว)
- มีเมนูภาษาไทย ใช้งานง่าย และสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ทันที เช่น เติมเงินหรือจ่ายบิล
ข้อควรทราบ:
- การใช้แอปต้องใช้อินเทอร์เน็ต (ผ่าน Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือ) หากคุณไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
- หากคุณลืมเบอร์จนไม่สามารถกรอกเบอร์เพื่อรับ OTP ได้ อาจต้องใช้วิธีอื่น (อย่างเช่น *545#) เพื่อทราบเบอร์ก่อน จึงจะลงทะเบียนเข้าแอปได้ในครั้งแรก
- เพื่อความสะดวก ควรจดจำรหัสผ่านของแอปไว้ หรือเปิดใช้งานการเข้าสู่ระบบด้วยลายนิ้วมือ/ใบหน้า (ถ้ามี) เพื่อเข้าใช้งานได้ง่ายขึ้นในอนาคต
วิธีเช็คเบอร์ AIS ผ่านเว็บไซต์ (AIS eService)
สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใช้แอปบนมือถือ AIS มีช่องทางผ่านเว็บไซต์ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยคุณสามารถใช้บริการ AIS eService หรือหน้าเว็บ myAIS บนคอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบเบอร์และข้อมูลบัญชี ขั้นตอนจะคล้ายกับการใช้แอป แต่ทำผ่านเว็บเบราว์เซอร์แทน วิธีนี้มีประโยชน์หากคุณอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่มีสมาร์ทโฟน
ขั้นตอนการเช็คเบอร์ตัวเอง AIS ผ่านเว็บไซต์:
- เปิดเว็บเบราว์เซอร์ แล้วไปที่เว็บไซต์ AIS (เช่น ais.co.th) จากนั้นเข้าสู่หน้าบริการสำหรับลูกค้า
- มองหาเมนูหรือส่วนที่เกี่ยวกับการจัดการเบอร์มือถือ เช่น “บริการและข้อมูล” หรือ “myAIS” บนเว็บไซต์
- เลือกเมนู “เช็คเบอร์โทรศัพท์” หรือ “ตรวจสอบหมายเลข” (บางครั้งอาจอยู่รวมกับเมนูเช็คโปรโมชั่น/ยอดเงิน)
- เข้าสู่ระบบด้วยบัญชี AIS ของคุณ หากยังไม่เคยสมัครบัญชี eService มาก่อน คุณอาจต้องลงทะเบียนด้วยการกรอกหมายเลขโทรศัพท์ AIS และยืนยัน OTP เช่นเดียวกับในแอป
- เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว หน้าเว็บจะแสดงรายละเอียดเบอร์โทรศัพท์ของคุณ รวมถึงข้อมูลบัญชีต่างๆ เหมือนในแอป myAIS
หลังจากเข้าสู่ระบบบนเว็บไซต์สำเร็จ คุณจะสามารถเห็นหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของคุณได้จากหน้าโปรไฟล์หรือหน้าข้อมูลผู้ใช้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบโปรโมชั่นที่ใช้งานและยอดเงินคงเหลือได้ในหน้าเดียวกัน
หมายเหตุ: ช่องทางเว็บไซต์นี้จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการเข้าสู่ระบบด้วยหมายเลขโทรศัพท์ ดังนั้นหากคุณยังไม่รู้หมายเลขของตัวเองเลย (และไม่มีอุปกรณ์อื่นรับ OTP) อาจต้องใช้วิธี USSD *545# ก่อนเพื่อให้ได้เบอร์มากรอกลงทะเบียน
วิธีเช็คเบอร์ AIS ผ่าน SMS (ส่งข้อความ)
ในบางกรณีที่คุณไม่สามารถใช้วิธีข้างต้นได้ AIS มีบริการผ่านข้อความ SMS ที่ช่วยค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของคุณด้วยการยืนยันข้อมูลส่วนตัว วิธีนี้อาจไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แต่สามารถเป็นทางเลือกเมื่อคุณมีข้อมูลบัตรประชาชนของผู้ลงทะเบียนเบอร์และยอมเสียค่าบริการเล็กน้อยเพื่อขอข้อมูลจากระบบ
ขั้นตอนการเช็คเบอร์ตัวเอง AIS ผ่านบริการ SMS:
- เปิดแอปส่งข้อความ (SMS) บนโทรศัพท์มือถือเครื่องใดก็ได้ (แนะนำให้ใช้จากโทรศัพท์ที่ใส่ซิม AIS ที่ต้องการเช็คเบอร์)
- พิมพ์ข้อความตามรูปแบบที่กำหนด ได้แก่
ค้นหาเบอร์
(หรือเบอร์ AIS
) ตามด้วยเว้นวรรค 1 ครั้ง แล้วกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลักของผู้จดทะเบียนเบอร์ AIS นั้น (หากใช้พาสปอร์ตลงทะเบียน ให้ใช้เลขพาสปอร์ต) - ตรวจสอบความถูกต้องของข้อความที่พิมพ์ แล้วส่ง SMS นี้ไปที่หมายเลข 1185
- รอรับข้อความตอบกลับจากระบบ AIS ซึ่งจะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของคุณที่ผูกกับเลขบัตรประชาชนนั้น หากข้อมูลตรงกัน คุณจะได้รับ SMS ยืนยันพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่ค้นหา
เมื่อทำตามขั้นตอนทั้งหมด ระบบจะส่ง SMS กลับมาพร้อมข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ (หรือรายการหมายเลขหากมีหลายเบอร์ที่ลงทะเบียนในชื่อคุณ) วิธีนี้มีประโยชน์ในกรณีที่คุณไม่มีซิมการ์ดอยู่ในมือ แต่จำเลขบัตรประชาชนของผู้ลงทะเบียนได้ อย่างไรก็ตาม การใช้บริการนี้อาจมีค่าธรรมเนียมในการส่งข้อความหรือค่าบริการที่เรียกเก็บโดย AIS
หมายเหตุ: ก่อนใช้บริการค้นหาเบอร์ผ่าน SMS ไปยัง 1185 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซิมของคุณได้จดทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชนที่ถูกต้อง และคุณอาจต้องมียอดเงินเพียงพอสำหรับค่าบริการข้อความพิเศษนี้ นอกจากนี้ หากระบบไม่พบข้อมูลที่ตรงกันหรือคุณส่งจากเบอร์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนชื่อเดียวกับเลขบัตรประชาชนที่ให้ไว้ อาจไม่ได้รับข้อมูลตอบกลับ
วิธีเช็คเบอร์ AIS ผ่านคอลเซ็นเตอร์ (โทร 1175)
หากวิธีข้างต้นใช้ไม่ได้ผลหรือคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม คุณสามารถติดต่อ AIS Call Center หมายเลข 1175 เพื่อสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ของคุณจากเจ้าหน้าที่โดยตรง วิธีนี้เหมาะในกรณีที่คุณต้องการความมั่นใจจากการพูดคุยกับพนักงาน หรือมีปัญหาอื่นร่วมด้วยที่ต้องการสอบถามพร้อมกัน
ขั้นตอนการตรวจสอบเบอร์ผ่านคอลเซ็นเตอร์ AIS:
- ใช้โทรศัพท์ (แนะนำว่าควรโทรจากโทรศัพท์ที่ใส่ซิม AIS ของคุณ) กดหมายเลข 1175 แล้วโทรออก เพื่อเชื่อมต่อกับศูนย์บริการลูกค้า AIS
- เมื่อโทรติดแล้ว คุณจะเข้าสู่ระบบตอบรับอัตโนมัติ ให้ฟังเมนูต่างๆ ที่ระบบแจ้ง หากมีตัวเลือกที่เกี่ยวกับ “ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์” หรือ “สอบถามข้อมูลเบอร์” คุณสามารถกดเลือกตามนั้นได้ (หมายเลขเมนูอาจเปลี่ยนแปลงได้ ควรฟังคำแนะนำล่าสุดที่ระบบแจ้ง)
- หากไม่มีเมนูอัตโนมัติที่ตรงกับความต้องการ คุณสามารถกดเลขเพื่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ (มักจะมีตัวเลือกให้กด 0 เพื่อติดต่อพนักงาน)
- เมื่อได้สนทนากับเจ้าหน้าที่ ให้แจ้งว่าคุณลืมหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองและขอทราบหมายเลข เจ้าหน้าที่อาจสอบถามข้อมูลยืนยันตัวตนเพื่อความปลอดภัย เช่น ชื่อ-นามสกุล ผู้จดทะเบียน วันเดือนปีเกิด หรือเลขบัตรประชาชน
- หลังยืนยันตัวตนเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะแจ้งหมายเลขโทรศัพท์ AIS ของคุณให้ทราบ คุณควรจดหรือบันทึกหมายเลขนั้นไว้ทันที
การโทรหา 1175 เพื่อสอบถามหมายเลขจะทำให้คุณได้รับข้อมูลจากพนักงานโดยตรง ซึ่งน่าเชื่อถือและถูกต้องแน่นอน นอกจากนี้ คุณยังสามารถถามคำถามอื่นๆ ที่สงสัยเกี่ยวกับบริการ AIS ได้ในการโทรครั้งเดียวกัน (เช่น สอบถามโปรโมชั่น แพ็กเกจ หรือปัญหาการใช้งานอื่นๆ)
ข้อควรทราบ:
- การโทรไปที่ 1175 จากเบอร์มือถือ AIS ของคุณ สำหรับลูกค้าแบบเติมเงินอาจมีค่าบริการเล็กน้อย (เช่น นาทีละ 1 บาท หรือเหมาเป็นครั้ง) ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของ AIS แต่หากเป็นลูกค้าแบบรายเดือนหรือ Serenade บางระดับ อาจโทรได้ฟรี (ตรวจสอบเงื่อนไขกับ AIS)
- เตรียมข้อมูลส่วนตัวสำหรับยืนยันตัวตนให้พร้อมทุกครั้งที่คุยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อความรวดเร็วในการรับบริการ
- เวลาในการติดต่อคอลเซ็นเตอร์อาจมีช่วงที่สายไม่ว่างหรือรอสายนาน หากต้องการความรวดเร็ว ควรหลีกเลี่ยงการโทรช่วงเวลาเร่งด่วน (เช่น ช่วงพักกลางวันหรือหลังเลิกงาน) หรือใช้วิธีอื่นแทน
วิธีอื่นๆ ในการค้นหาเบอร์โทรศัพท์ AIS ของตัวเอง (กรณีพิเศษ)
นอกจากวิธีหลักๆ ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีเคล็ดลับหรือวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบางอย่างที่อาจช่วยให้คุณค้นหาเบอร์ AIS ของตัวเองได้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีปกติ หรือเพื่อเป็นการย้ำเตือนหมายเลขของคุณไว้สำหรับอนาคต:
- ตรวจสอบจากซองซิมการ์ดหรือเอกสารลงทะเบียน: หากคุณยังเก็บซองบรรจุซิมการ์ด AIS ที่ได้รับมาในตอนเปิดเบอร์ใหม่ไว้ บนซองนั้นมักจะพิมพ์หมายเลขโทรศัพท์ไว้ชัดเจน รวมถึงเลขรหัสซิม (ICCID) และข้อมูลการลงทะเบียน นอกจากนี้ หากคุณเป็นลูกค้าแบบรายเดือน เอกสารสัญญาหรือใบแจ้งค่าบริการรายเดือนครั้งแรกก็มักจะมีหมายเลขโทรศัพท์ระบุไว้
- โทรหรือส่งข้อความไปยังเบอร์อื่น: วิธีง่ายที่สุดที่หลายคนใช้คือการใช้โทรศัพท์ของคุณโทรออกหรือส่ง SMS ไปยังเบอร์มือถืออีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัว (เช่น โทรหาโทรศัพท์ของเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่อยู่ข้างๆ) เมื่ออีกเครื่องหนึ่งดังหรือได้รับ SMS คุณก็จะเห็นหมายเลขของคุณปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์นั้นทันที อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จำเป็นต้องมีเงินคงเหลือเพียงพอสำหรับการโทรหรือส่งข้อความอย่างน้อย 1 ครั้ง
- เช็คจากเมนูการตั้งค่าโทรศัพท์: สมาร์ทโฟนบางรุ่นจะแสดงหมายเลขโทรศัพท์ของซิมการ์ดที่ใส่อยู่ในเครื่องในเมนูการตั้งค่า ตัวอย่างเช่น ในโทรศัพท์ Android คุณสามารถไปที่ การตั้งค่า (Settings) > เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) > สถานะซิม (SIM Status) ซึ่งบางครั้งจะแสดง “หมายเลขโทรศัพท์ของฉัน” (My Phone Number) ไว้ หรือใน iPhone สามารถดูที่ การตั้งค่า > โทรศัพท์ > หมายเลขของฉัน (My Number) แต่โปรดทราบว่าวิธีนี้อาจไม่เสมอไป หากซิมไม่เคยกำหนดหมายเลขไว้ที่ตัวการ์ด ระบบอาจแสดงเป็น “Unknown”
- ดูจากบัญชีออนไลน์หรือบริการอื่นที่ผูกกับเบอร์: หากคุณเคยใช้เบอร์นี้สมัครบัญชีออนไลน์ต่างๆ เช่น Line, Facebook, Gmail หรือบริการธนาคาร คุณอาจตรวจสอบข้อมูลบัญชีนั้นๆ ซึ่งบางแห่งจะแสดงหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกบัญชีไว้ เช่น ในบัญชี Google (Google Account) สามารถเข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ความปลอดภัยเพื่อดูเบอร์โทรศัพท์สำหรับการกู้คืนบัญชี ที่อาจเป็นเบอร์ของคุณ
วิธีเสริมเหล่านี้อาจไม่ใช่ช่องทางหลัก แต่ก็มีประโยชน์ในยามฉุกเฉินหรือช่วยยืนยันหมายเลขของคุณอีกทางหนึ่ง ควรใช้ร่วมกับวิธีหลักที่แนะนำไปแล้วเพื่อความแน่นอน
เปรียบเทียบวิธีเช็คเบอร์ AIS แต่ละแบบ
วิธีเช็คเบอร์ | ความสะดวก/รวดเร็ว | ค่าใช้จ่าย | ข้อจำกัด/หมายเหตุ |
---|---|---|---|
กด USSD *545# | สะดวกมาก – กดรหัสไม่กี่ตัวก็ทราบเบอร์ทันที (ภายในไม่กี่วินาที) | ฟรี (ไม่มีค่าบริการ) (ใช้ได้แม้ไม่มีเงินคงเหลือ) |
ต้องใช้โทรศัพท์ที่ใส่ซิม AIS และมีสัญญาณเครือข่าย |
แอป myAIS | สะดวก – เห็นเบอร์พร้อมข้อมูลอื่นๆ ในแอปเดียว (หลังจากตั้งค่าแอปครั้งแรก) | ฟรี (แอปไม่มีค่าบริการ) (ใช้อินเทอร์เน็ต Wi-Fi หรือมือถือ ซึ่งอาจมีค่าเน็ตตามแพ็กเกจ) |
ต้องมีสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต ต้องลงทะเบียนเข้าใช้งานแอปด้วยเบอร์ (ต้องรู้เบอร์หรือรับ OTP ได้) |
เว็บไซต์ AIS | ปานกลาง – ต้องล็อกอินผ่านเว็บ แต่ให้ข้อมูลเหมือนแอป | ฟรี (ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการบนเว็บ) | ต้องมีคอมพิวเตอร์/มือถือที่เข้าอินเทอร์เน็ตได้ ต้องมีบัญชี myAIS หรือรับ OTP ทางเบอร์ (ต้องทราบเบอร์ก่อน) |
ส่ง SMS 1185 | ปานกลาง – ได้ผลลัพธ์ภายในไม่กี่นาทีทางข้อความตอบกลับ | มีค่าใช้จ่ายในการส่ง SMS พิเศษ (อาจเป็นอัตราค่าบริการพรีเมียมต่อครั้ง) |
ต้องมีเลขบัตรประชาชนของผู้จดทะเบียนและส่งข้อความอย่างถูกต้อง อาจไม่ได้รับตอบกลับถ้าข้อมูลไม่ตรงหรือยอดเงินไม่พอ |
โทร 1175 (Call Center) | ปานกลาง – ได้คุยกับคนจริง สามารถถามตอบได้ทันที | อาจมีค่าบริการการโทร (ลูกค้าเติมเงินมีค่าโทรเป็นนาที ลูกค้ารายเดือนบางกลุ่มฟรี) |
ต้องยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ บางครั้งสาย忙หรือรอนาน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่โทร |
วิธีอื่นๆ (ตามที่กล่าว) | ขึ้นอยู่กับวิธี – เช่น ดูจากซองซิม (ทันที), โทรหาเครื่องอื่น (ทันที), เช็คในเครื่อง (ทันที) | ไม่มี (ถ้ามีอุปกรณ์พร้อมอยู่แล้ว) (ค่าโทร/SMS ถ้าโทรหาเครื่องอื่น) |
ต้องมีอุปกรณ์หรือข้อมูลเสริม เช่น ซองซิม, โทรศัพท์เครื่องที่สอง, เข้าถึงบัญชีออนไลน์อื่นๆ |
จากตารางด้านบน จะเห็นได้ว่าแต่ละวิธีมีความเหมาะสมต่างกันไป หากคุณต้องการความรวดเร็วทันใจและทำได้ทุกสถานการณ์ การกดรหัส *545# เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นประจำและอยากได้ข้อมูลครบถ้วน การใช้แอป myAIS ก็ให้ประสบการณ์ที่ดีไม่แพ้กัน ส่วนการโทรคอลเซ็นเตอร์หรือส่ง SMS อาจเป็นทางเลือกในกรณีพิเศษที่วิธีอื่นใช้ไม่ได้ หรือสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเทคโนโลยีมากนัก การมีเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือย่อมเพิ่มความอุ่นใจ
แนะนำให้ลองวิธีที่คิดว่าเหมาะกับสถานการณ์ของคุณที่สุดก่อน และควรจดบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตนเองเก็บไว้ในที่ปลอดภัยหลังจากทราบเบอร์แล้ว เพื่อป้องกันการลืมในครั้งต่อไป
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: ลืมเบอร์โทรศัพท์ AIS ของตัวเอง ควรทำยังไงก่อนเป็นอย่างแรก?
A1: สิ่งแรกที่ควรลองคือการกดรหัส *545#
แล้วกดโทรออกบนมือถือของคุณเอง วิธีนี้เป็นวิธีเช็คเบอร์ตัวเองของ AIS ที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด และไม่เสียค่าใช้จ่าย. ภายในไม่กี่วินาทีหลังจากกดรหัส คุณจะเห็นหมายเลขโทรศัพท์ของคุณปรากฏบนหน้าจอทันที หากวิธีนี้ไม่ได้ผล (เช่น ในกรณีไม่มีสัญญาณ) ค่อยพิจารณาวิธีอื่นต่อไป เช่น ใช้แอป myAIS หรือโทรสอบถามคอลเซ็นเตอร์
Q2: กด *545# เช็คเบอร์ AIS มีค่าบริการหรือไม่?
A2: โดยปกติแล้วการกด *545# เพื่อเช็คเบอร์โทรศัพท์ AIS ไม่มีค่าบริการ การตรวจสอบหมายเลขของตัวเองเป็นบริการฟรีที่ AIS ให้กับลูกค้า ดังนั้นคุณสามารถใช้รหัสนี้ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหักเงิน อย่างไรก็ตาม หากคุณอยู่ในโรมมิ่งต่างประเทศหรือใช้ผู้ให้บริการโครงข่ายอื่นร่วม อาจมีเงื่อนไขพิเศษ ควรสอบถามผู้ให้บริการในกรณีนั้นๆ
Q3: ไม่มีเงินเหลือในซิมจะเช็คเบอร์ตัวเองได้ไหม?
A3: ได้แน่นอน คุณยังสามารถเช็คเบอร์ตัวเองได้แม้จะไม่มีเงินเหลืออยู่ในซิมก็ตาม วิธีที่แนะนำคือกด *545# โทรออก ซึ่งไม่ต้องใช้ยอดเงินคงเหลือในการดำเนินการ (บริการฟรี). ระบบ USSD ของ AIS จะยังทำงานตราบใดที่คุณมีสัญญาณเครือข่าย ดังนั้นต่อให้เงินหมด คุณก็ยังเห็นเบอร์ตัวเองได้จากวิธีนี้ อย่างไรก็ตาม หากคุณจะโทรหา 1175 คอลเซ็นเตอร์ในขณะที่เงินหมด วิธีนั้นจะไม่สามารถทำได้เพราะการโทรต้องใช้งานเงินคงเหลือ (ยกเว้นกรณีฉุกเฉินบางอย่างที่ผู้ให้บริการอาจยกเว้น)
Q4: ใช้วิธีไหนเช็คเบอร์ได้เร็วที่สุด?
A4: วิธีที่เร็วและง่ายที่สุดคือการกดรหัส *545# บนมือถือของคุณ เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีและไม่ต้องผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอน ขณะที่การใช้แอป myAIS ก็สะดวก แต่ว่าต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและล็อกอินเข้าแอปก่อนจึงจะเห็นข้อมูลได้ ส่วนการโทรคอลเซ็นเตอร์หรือส่ง SMS อาจใช้เวลามากกว่าทั้งในการรอสายและรับส่งข้อความ ดังนั้นถ้าต้องการรู้หมายเลขทันทีภายในเสี้ยววินาที *545# คือวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด
หวังว่าวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเช็กเบอร์ตัวเอง AISได้อย่างง่ายดาย คราวหน้าเมื่อคุณสงสัยหรือจำเบอร์ไม่ได้ ก็เพียงกลับมาทบทวนวิธีที่เราแนะนำไว้ และอย่าลืมบันทึกเบอร์ของคุณเก็บไว้เพื่อความอุ่นใจนะครับ/ค่ะ นอกจากนี้ หากคุณมีเบอร์จากเครือข่ายอื่น เช่น DTAC หรือ TrueMove H คุณสามารถอ่านวิธีเช็คเบอร์ของค่ายเหล่านั้นได้ในบทความอื่นๆ บนเว็บไซต์ ussdth.com ของเรา เพื่อให้การจัดการหมายเลขโทรศัพท์ของคุณเป็นเรื่องง่ายในทุกเครือข่าย
บทความนี้ได้รับการอัปเดตและเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2568 ตามปฏิทินไทย

ชื่อของฉันคือ นิรุตติ์ แสนไชย
ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านโทรคมนาคม ฉันเคยทำงานในบริษัททั้งหมดในประเทศไทย: AIS (เครื่องหมายการค้า 1-2-call), DTAC (เครื่องหมายการค้า Happy) และ True Mobile
ฉันหวังว่าเว็บไซต์ของฉันจะช่วยคุณได้และจะมีประโยชน์มาก
gomo by ais คืออะไร?
GOMO by AIS เป็นบริการโทรศัพท์มือถือรายเดือนที่เปิดให้บริการโดย AIS ซึ่งมีค่าบริการที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการบริการโทรศัพท์มือถือที่คุ้มค่าและคุณภาพดี โดยมีแพ็กเกจต่างๆ ให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า และยังมีบริการเสริมอื่นๆ เช่น แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต โปรโมชั่นการซื้อโทรศัพท์มือถือ และอื่นๆ โดย GOMO by AIS เป็นบริการโทรศัพท์มือถือรายเดือนที่ไม่มีการผูกมัดสัญญา และลูกค้าสามารถใช้บริการได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
gomo by ais เป็นแพ็กเกจโทรศัพท์มือถือที่ให้บริการโดย AIS ซึ่งมีความเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแพ็กเกจที่ไม่มีรายเดือนหรือค่าบริการอื่นๆที่ซับซ้อน และต้องการความคุ้มค่าในการใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบเต็มรูปแบบ
การใช้งาน gomo by ais นั้นสามารถทำได้โดยการเติมเงินเข้าบัญชี gomo แล้วใช้งานตามต้องการ โดย gomo by ais มีแพ็กเกจที่คุ้มค่าและหลากหลายให้เลือกใช้งาน เช่น แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน แพ็กเกจโทรทั้งในและต่างประเทศ และยังมีบริการโอนย้ายเงินเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะดวกและรวดเร็ว
เพื่อใช้งาน gomo by ais ได้ง่ายขึ้น ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน gomo จาก Google Play หรือ App Store แล้วติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือของตนเอง โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์ของตนเองสำหรับการลงทะเบียน หลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถเติมเงินเข้าบัญชี gomo และเลือกใช้แพ็กเกจต่างๆได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน